Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.


 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ

Go down 
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
Admin
Admin
Admin


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 44
Registration date : 11/03/2007

ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ   ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ Icon_minitimeSun Mar 11, 2007 5:05 am

ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ Ent_01_copy

เชื่อว่าหลายคน คงพอจะจำภาพหนุ่มหน้าใสในภาพยนตร์เรื่อง กระโปรงบานขาสั้น กันได้บ้าง และทุกวันนี้นักแสดงหนุ่มคนนั้น กลายเป็นพระเอกที่มีชื่อเสียง และเปี่ยมไปด้วยคุณภาพคับจอเลยทีเดียว





วันนี้บันเทิง "คม ชัด ลึก" ขอย้อนอดีตไปพบกับพระเอกหนุ่มชื่อดัง "กัปตัน" ภูธเนศ หงษ์มานพ พร้อมกับเรื่องราวในปัจจุบันที่เขากลายเป็นพระเอกเนื้อหอม และพูดคุยทุกเรื่องราว แบบเจาะลึกกับพระเอกผู้ที่ไม่ค่อยมีข่าวค (ร) าวในเชิงลบสักเท่าไร


งานในวงการบันเทิง

กระแสตอบรับจากละครเรื่อง "ลิขิตรัก ลิขิตเลือด" เป็นอย่างไรบ้าง

ก็ดีครับ เพราะปกติผมเป็นคนไปซื้อของเอง อย่างไปตลาดก็จะมีคนพูดถึงเยอะเหมือนกัน แสดงว่าเขาก็ดูละครที่เราเล่นเหมือนกันนะ (ยิ้ม)


เรื่องนี้ยากไหม เพราะต้องเล่นเป็น 2 คน

ยากมาก แล้วก็เหนื่อยมาก เป็นครั้งแรกที่เล่นเป็นฝาแฝด ความยากอยู่ที่สมาธิ เราต้องมีสมาธิ อย่างบางทีเขาไม่สามารถเก็บทีละตัวได้ ถ่ายตัวหนึ่งไปแล้ว ก็ต้องจำอีกตัวไว้ว่าเล่นยังไง แล้วก็ต้องกลับไปแต่งหน้าทำผมใหม่ เป็นอีกตัว จากนั้นก็กลับมาเล่นใหม่ ถามว่ามีสับสนกับบทบางมั้ย จริงๆ ก็มีบ้าง แต่จะไม่เยอะ อย่างที่บอกว่าต้องใช้พลังใช้สมาธิเยอะกว่าการเล่นละครตัวเดียว


บทหนักแบบนี้ ถือว่าเป็นบทที่ยากที่สุดตั้งแต่เล่นละครมาหรือเปล่า

ยากนะ แต่จะเป็นบทยากที่สุดหรือเปล่า คงต้องมีที่ยากกว่านี้ สำหรับในงานแสดง แต่ตอนนี้ ถือว่าเป็นบทยากที่สุด เพราะต้องเล่นเป็นฝาแฝด แล้วก็ต้องบู๊ด้วย เป็นดราม่าอีกต่างหาก ซึ่งเราต้องเล่นอารมณ์กับตัวละครที่ไม่มีตัวตน เพราะตัวละครนั้นคือเราเอง


งานทุกชิ้นของกัปตันดูเหมือนจะเป็นงานคุณภาพทั้งนั้น

ก็ดีใจ และภูมิใจที่คนเห็นคุณค่า และความสำคัญของการแสดง โดยส่วนตัวผมก็อยากให้ผลงานออกมาดีอยู่แล้ว ทุกวันนี้ ผมอยากให้คนมองเราเป็นนักแสดง ไม่อยากให้คนมองว่าเป็นดารา คือในความรู้สึกของผมคำว่า "ดารา" กับคำว่า "นักแสดง" ต่างกัน เพราะว่าบางทีดาราอาจจะสวยหล่อ ต้องดูดีตลอดเวลา ดาราดูเป็นสตาร์ แต่ดาราถ้าถามแล้วอาจจะไม่รู้ว่ามีผลงานอะไรกันมาบ้าง นึกไม่ออกว่ามีผลงานอะไรที่โดดเด่น ผิดกับนักแสดง ที่จะรู้ว่ามีผลงานอะไรบ้าง ที่คนนึกถึงชื่นชอบ


ช่วงชีวิตที่มีแต่เรื่องดีๆ

ช่วงชีวิตตั้งแต่เข้าวงการครั้งแรกกับหนัง "กระโปรงบานขาสั้น" จนถึงทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ก็เจออะไรมาเยอะ ทั้งสุขและทุกข์ และบทเรียนที่ทำให้เราโตขึ้น จริงๆ การที่ผมได้อยู่ตรงนี้สอนอะไรผมเยอะ กลายเป็นว่าชีวิตเราพอพ้นมาจากครอบครัว ก็มาทำงานวงการบันเทิง เหมือนเรามีสองครอบครัว สองสถาบัน อย่างอยู่ที่บ้านก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ออกมาข้างนอกก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง


จนถึงวันนี้กัปตันอยู่วงการมากี่ปี

ณ วันนี้ก็ 14 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2535 ถามว่าอิ่มตัวหรือยัง ถ้าเอาเข้าจริงๆ ในมุมมองนักแสดงนะ ผมว่ายังมีอะไรอีกเยอะที่ท้าทาย ในการทำงานผมว่ายังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาอีกเยอะ


แสดงว่ายังอยากอยู่วงการนี้ไปอีกนาน

ผมว่าขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง เพราะทุกวันนี้เราทำงานมีความสุข ไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งในอนาคตเราจะไปเป็นเหมือนใคร แต่เราเป็นตัวเรานี่แหละ ถ้าถามว่ายังอยากเล่นอยู่มั้ย เรายังอยากเล่นอยู่นะ อยากสนุกกับมัน ถ้ายังสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี ก็ยังอยากทำอยู่ บางคนคิดว่าแก่ไปแล้ว ต้องเล่นเป็นพ่อแม่แล้ว ผมว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น คือชีวิตในตัวละครยังมีอีกเยอะ


ตลอดระยะเวลา 14 ปี มีการวางตัวอย่างไรถึงไม่มีข่าวเสียหายเลย

ผมว่าคงเป็นเพราะนิสัยโดยส่วนตัวที่ผมเป็นแบบนี้ ผมก็มีการปรับตัว เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิง การอยู่ตรงนี้มีทั้งสิ่งดีและไม่ดี แต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปกับมัน เราก็ได้คำแนะนำที่ดีจากพี่ๆ ในวงการ แล้วเราก็เห็นตัวอย่างที่ดี ทำให้เราอยากเป็นแบบนี้นะ

ผมมองว่าวงการบันเทิงให้อะไรเราเยอะมาก ผมอยากตอบแทนวงการบันเทิงบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิด คือคงไม่ได้ทำอะไรให้ได้มากมาย นอกจากทำตัวเองให้ดีก่อน ผมอยากให้เขามองเราในแง่บวก มองเราในสิ่งที่ดี มองว่าวงการนี้ ก็ยังมีคนดี มีสิ่งที่ทำประโยชน์ให้สังคม หรือเป็นตัวอย่างให้สังคมได้ ไม่ใช่ว่าวงการบันเทิงมีแต่เรื่องบันเทิงเริงรมย์ แล้วก็เละเทะอย่างเดียว

ผมว่าทุกวงการมีทั้งดีและไม่ดี และก็เข้าใจดีว่า ข่าวไม่ดี มักจะเป็นข่าวก่อนเสมอ หรือมักจะเป็นเรื่องที่คนสนใจเสมอ สิ่งที่ดีกลับเป็นข่าวกรอบเล็กๆ เท่านั้น จากการที่ทำงานมานาน ก็ค่อนข้างสังเกตเห็น เลยรู้สึกว่าอย่างน้อยขอเป็นหนึ่งพลัง ที่ทำให้รู้สึกว่าวงการบันเทิงมีสิ่งที่ดีอยู่ อย่างน้อยคนรุ่นหลัง อยากเอาเราเป็นแบบอย่างบ้าง เราได้ช่วยวงการในสิ่งที่ทำให้เรามีอาชีพ มีงานทำ และมีทุกวันนี้


ถึงขนาดต้องระวังตัวจนไม่กล้าไปเที่ยวเลยหรือเปล่า

ผมว่าการระมัดระวังตัวเอง ไม่ใช่เพราะเราฝืนหรือสร้างภาพ แต่บางครั้งเกือบจะเป็นหน้าที่ด้วยซ้ำ ก็เหมือนกับว่าคุณครูมีหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน บางครั้งแบบอย่างที่ดี คนที่เห็นก็จะซึมซับไปเอง โดยที่เขาไม่รู้ตัว อย่างถ้ามีข่าวดีๆ ออกมา เด็กหรือเยาวชนเห็นผ่านจากหนังสือ หรือว่าทีวี เขาก็คิดว่าคนในวงการก็ทำดีๆ เหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่ามีแต่สิ่งไม่ดี มีข่าวไม่ดี ผมว่าเรื่องแบบนี้ มีสองด้าน ผมเลยต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่ว่าดูแลเพื่อภาพลักษณ์ แล้วลับหลังเป็นอีกอย่าง ถ้าอย่างนั้น ก็คงแย่เหมือนกัน เราอยู่ในที่โล่งแจ้ง บางทีทำอะไรที่ไม่ดี โดยที่เราไม่รู้ตัว ว่าคนอื่นเขาเอาไปเป็นแบบอย่าง


การวางตัวดี ก็เลยส่งผลให้ได้รับมาหลายรางวัล

อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่ง แต่คงจะประกอบกันหลายอย่าง ทั้งเรื่องงานที่ดี เขาก็เลยมองกลับมาที่เรื่องส่วนตัวด้วย ก็ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน ว่าคุณสามารถเป็นตัวอย่างแก่เยาวชนได้นะ


แล้วคิดอย่างไรที่เดี๋ยวนี้ ส่วนใหญ่จะดังมาจากข่าว

ผมไม่รู้ว่าสังคมวัดความดังจากอะไร ใช้คำว่าเป็นที่รู้จักแล้วกัน คือเป็นที่รู้จักจากข่าวก็เยอะ เป็นที่รู้จักจากผลงานก็เยอะ แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีคุณภาพก็จะอยู่ได้ ใครจะดังนั้นไม่ยากหรอก แต่คุณจะรักษาความมีชื่อเสียงไว้ได้นานที่สุด ผมว่ายากกว่า

เดี๋ยวนี้เขามาแล้วก็หายไป เหมือนกับพลุจุดขึ้นมาแล้วก็มอดไป แต่ใครจะขึ้นมา แล้วยื้อได้นานกว่าหรือว่าให้คนรู้สึกว่าคุณเป็นนักแสดง เป็นดาวที่ค้างฟ้า ผมว่ายากมากนะ รุ่นผมก็ยังรู้สึก ว่าน้อยลงเรื่อยๆ ผมอยากให้มีคนคุณภาพอยู่เยอะๆ


ดูเหมือนช่วงนี้งานจะเยอะ ดูแลเรื่องสุขภาพอย่างไรบ้าง

ผมเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว แล้วทำงานหนัก บางทีโดนฝุ่น โดนละอองก็แพ้ ยอมรับว่ามีผลกระทบกับงานเหมือนกัน แต่ถ้ามีเวลาก็จะออกกำลังกาย แต่อากาศช่วงนี้แย่มาก แล้วต้องทำงานเลิกดึกตื่นเช้า ร่างกายก็อาจจะเดี้ยงได้ แต่ผมก็ตรวจสุขภาพทุกปี ด้วยความที่เป็นคนบริจาคเลือดอยู่แล้ว การบริจาคเลือดก็เหมือนเป็นการตรวจสุขภาพไปด้วย


ทำงานหนักแบบนี้กลัววูบไหม

จริงๆ ก็กลัวเหมือนกัน ผมว่าถ้ามีรางวัลควายเหล็กก็ต้องยกให้ผมตัวหนึ่ง (หัวเราะ) ผมก็เคยคุยกับอ้อม (พิยดา อัครเศรณี) เล่นๆ ว่าควายไถนา ยังได้พัก แต่เราทำงานเช้าชนเช้าเลยนะ เราควรจะได้รับรางวัล แต่ผมว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ


มุมมองเรื่องความรัก

เรื่องความรักดูจะไม่เปิดเผยเท่าไร

ผมก็เข้าใจนะ อยู่ตรงนี้เราเป็นคนของประชาชน เป็นที่สนใจของคนอื่น มันคืออะไร เพราะผมอยู่ตรงนี้มานานพอสมควร แต่บางทีเรื่องส่วนตัวก็ต้องมีมุมส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ว่าคุณเป็นนักแสดง นักร้อง ศิลปิน จะมานั่งโกหกก็ไม่ได้แล้ว แต่วันหนึ่งคุณก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่คุณต้องมีชีวิต มีการเรียนรู้ มีชีวิตครอบครัว แต่เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สมมติเป็นนาย ก. นาง ข. คุณจะคบกัน จะเลิกกัน ทะเลาะกัน เรื่องแบบนี้ก็รู้แค่พี่น้องหรือเพื่อนฝูง แต่พอเป็นคนที่รู้จัก เป็นนักแสดงที่ดัง ทุกคนให้ความสนใจ แต่เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน มีความรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนกัน หรือบางคนคบกันแล้ว อาจจะใช่หรือไม่ใช่ ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่พอเกิดอะไรขึ้นมาปุ๊บ กลายเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากการควบคุมของเรา ผมก็พอจะเข้าใจ แต่ไม่อยากให้เป็นอะไรที่กระจายต่อส่วนรวมมากนัก


จุ๋ย (วรัทยา นิลคูหา) ใช่คนที่เราจะแต่งงานด้วยหรือยัง

ผมว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ เด็กๆ ผมคิดว่ารักกันก็แต่งงานอยู่ด้วยกัน แต่พอโตขึ้นก็อีกขั้นหนึ่ง จริงๆ การแต่งงานก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าเราต้องพร้อม แล้วความพร้อมของแต่ละคนก็วัดไม่ได้ ซึ่งกับจุ๋ย ก็เป็นเรื่องของอนาคต เราก็รู้สึกดีต่อกัน เคารพซึ่งกันและกัน และให้เกียรติกัน ที่เราดำเนินชีวิตไปข้างหน้า เราก็ดูว่าอนาคตจะเป็นยังไง วันหนึ่งเราสองคนจะตอบได้เองว่าพร้อมหรือยัง ทุกวันนี้เราก็ไม่มีใคร เราก็ยังเดินในเส้นทาง เดินไปด้วยกัน


ถือว่าเป็นคู่รักที่ไม่หวือหวา

เรามีมุมของเรา เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะอยู่ในสายตาของประชาชน หรือคนที่สนใจ แต่ไม่โกหกใคร ไม่บอกใครซะทั้งหมด เหมือนกับว่าไม่ปิดแต่ก็ไม่เปิด เราก็ใช้ชีวิตไปไหนมาไหน ไม่ใช่ว่าจะต้องเอิกเกริก


มองถึงเรื่องแต่งงานไว้บ้างหรือยัง

เด็กๆ อยากแต่งเร็ว เพราะอยากมีลูกเป็นเพื่อนเล่น ไม่อยากแก่แล้วเล่นกับลูกไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่ซีเรียส งานตรงนี้แปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือจะออกแล้วออกไม่ได้ อาจเป็นอาถรรพณ์หน่อยๆ บางคนคิดว่าจะหยุดทำงานแค่นี้ แต่งงานอายุเท่านี้ พอทำงานแล้วก็อยากทำไปอีก อยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปอีก


แสดงว่าถ้าแต่งงานแล้วอาจจะไม่ทำงานในวงการต่อ

ก็คงทำ แต่อาจจะน้อยลง ผมก็คิดเล่นๆ เพราะผมเห็นเพื่อนมีลูก น้องสาวมีลูก พอมีลูก ก็อยากใช้เวลากับเขา แค่ผมมีสุนัขที่บ้าน 2 ตัว ทุกวันนี้ยังงอนแล้วงอนอีก (หัวเราะ) ถ้าเป็นลูกเราล่ะ คงจำหน้าพ่อไม่ได้เลย ผมก็อยากมีเวลาให้เขา
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
http://captain.editboard.com
 
ชีวิตที่ลงตัว ของ "กัปตัน" ภูธเนศ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1
 Similar topics
-
» ???? "แฟน" ??ัน?อก??!! "????ิต??" โนจูบ
» " ??? ????าด? " ????ีทาง?????์น” ?ัป?ัน ?
» ????่คนใจง???! "???" ??ะก??????????? "?ัป?
» "?ัป?ัน" แจง???ัญ???????าน '???'
» "??าน??????ัก" ?รต??้งพ??!! "?ัป?ัน" ??

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
 :: "Captain" :: News + Article-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: